เงินกู้รายเดือน

เลือกจำนวนและระยะเวลาของเงินกู้

บาท
เดือน
วิธีการรับ
สมัครเลย
สินเชื่อกู้เงินธ.ก.ส. A-Cash
เงินเดือน
จาก 5000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 50000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 5%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 12 เดือน
อายุ
จาก 18 ปี
กู้เงินออมสินเยียวยาโควิด-19
เงินเดือน
ไม่เกิน 30000 บาท
จำนวนสูงสุด
10,000 – 50,000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
10 บาทต่อเดือน
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 12 เดือน
อายุ
ไม่เกิน 70 ปี
0% ใน 10 เดือนสำหรับตั๋วเครื่องบิน
เงินเดือน
จาก 15000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 2000000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 6%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 60 เดือน
อายุ
จาก 20 ปี
สินเชื่อบัตรเงินสด Prima Card
เงินเดือน
จาก 8000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 300000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 8%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 60 เดือน
อายุ
จาก 20 ปี
สินเชื่อบุคคล Speedy Loan
เงินเดือน
จาก 12000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 1000000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 12%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 84 เดือน
อายุ
จาก 20 ปี
บัตรกดเงินสด Ready Cash
เงินเดือน
จาก 9000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 200000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 10.5%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 60 เดือน
อายุ
จาก 21 ปี
บัตรกดเงินสดซิตี้พรีเมียร์
เงินเดือน
จาก 15000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 400000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 18%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 60 เดือน
อายุ
จาก 22 ปี
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัสพรีเมียร์
เงินเดือน
จาก 6000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 250000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 16%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 48 เดือน
อายุ
จาก 18 ปี
คะแนนสะสมทีเอ็มบีรีวอร์ดพลัส
เงินเดือน
จาก 15000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 1500000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 6%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 60 เดือน
อายุ
จาก 20 ปี
อายุงานตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
เงินเดือน
จาก 15000 บาท
จำนวนสูงสุด
ถึง 800000 บาท
อัตราดอกเบี้ย
จาก 15%
ระยะเวลากู้เงิน
ถึง 60 เดือน
อายุ
จาก 15-20 ปี

เงินกู้รายเดือน 2023

ในสภาวะยุคโควิด-19 ผู้คนตกงานเป็นจำนวนมาก ทำให้ขาดรายได้จะหาอาชีพเสริมก็หายากเพราะมีคนสมัครกันจำนวนมาก เมื่อไม่มีทางออกคุณอาจจะหันไปเพิ่งการกู้เงินนอกระบบ เงินกู้ได้จริง เงินกู้รายเดือนที่ได้เงินง่าย ได้จริง แต่คุณต้องแลกกับดอกเบี้ยมหาโหดที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากคุณไม่จ่ายเจ้าหนี้จะมาตามทวงเงินถึงบ้านทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัว อับอาย บางรายถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันก็มีจนเป็นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลกัน จนภาครัฐได้ออกนโยบายเพื่อมาช่วยลูกหนี้นอกระบบเพราะการกู้เงินนอกระบบส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศอย่างมาก นอกจากจะเกิดความเลื่อมล้ำระหว่างบุคคลกันแล้วยังทำให้ลูกหนี้เกิดความไม่เป็นธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าหนี้นอกระบบ

กู้เงินนอกระบบคืออะไร

เป็นการกู้ยืมเงินกันเองระหว่างบุคคลโดยจะไม่ผ่านระบบสถาบันการเงิน ซึ่งผู้ให้กู้จะเรียกว่า เจ้าหนี้ ส่วนผู้ขอยืมจะเรียกว่า ลูกหนี้ การเงินกู้นอกระบบจะไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวโดยผู้ให้กู้จะเขียนเงื่อนไขและข้อตกลงขึ้นมาเอง บางครั้งอาจจะมีการขอหลักทรัพย์ในการค้ำประกันด้วย ส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ อัตราดอกเบี้ยซึ่งมีราคาสูงมากเกินกว่าที่รัฐบาลได้กำหนดไว้จริงๆแล้วถือว่าผิดกฎหมาย แต่ที่คนส่วนใหญ่ชอบไปเงินกู้รายเดือนกันเพราะมีความรวดเร็ว เมื่อคุณทำการกู้เงินเจ้าหนี้ก็จะให้สัญญามาอ่านและลงลายเซ็นต์หลังจากนั้นคุณก็รอรับเงินได้ทันที

ประเภทเงินกู้นอกระบบมี 2 ประเภท

  • เงินกู้นอกระบบรายวัน

เงินกู้นอกระบบที่ใช้เวลาสั้นซึ่งจะคิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวัน โดยการกู้เงินนอกระบบแบบรายวันจะมีหลายแบบ เช่น การกู้เงินดอกลอย คือการกู้เงินที่มีการเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้ทุกวันจนกว่าลูกหนี้จะหาเงินต้นมาคืน, กู้หนี้เงินสดหรือใช้ทองคำเป็นการเก็บเงินทั้งเงินต้นบวกดอกเบี้ยมาไว้ด้วยกัน ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ด่วนนอกระบบจะเริ่มตั้งแต่ร้อยละ 5 บาทต่อเดือน

  • เงินกู้นอกระบบรายเดือน (เงินกู้รายเดือน-รายปี)

เป็นการให้กู้เงินระยะยาวตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป เงินกู้รายเดือนจะเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้เป็นรายเดือนจนกว่าลูกหนี้จะนำเงินต้นมาคืน ที่เรียกว่า เงินดอกลอยรายเดือน หากลูกหนี้กู้เงินที่สูงมาก จะต้องนำหลักทรัพย์มาค้ำประกัน เช่น ที่ดิน, บ้าน, รถ ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มตั้งแต่ร้อยละ 5 จนไปถึงร้อยละ 20

สิ่งที่ควรระวังเงินกู้รายเดือน

การกู้เงินไม่ว่าคุณจะเป็นเงินกู้รายวันหรือเงินกู้รายเดือนลูกหนี้ควรอ่านเงื่อนไขและข้อตกลงให้ดีเสียก่อน เพราะหลายครั้งจะเกิดปัญหาตามมา เช่น ลูกหนี้ได้ไปขอเงินกู้รายเดือนแล้วไม่มีเงินจ่าย จนเกิดการทวงหนี้ที่มีความรุนแรงยึดทรัพย์ไปจนหมด สร้างความเสียหายให้ลูกหนี้ ดังนั้นหากคุณมีปัญหาด้านการเงิน คุณควรจะติดต่อธนาคารจะดีกว่า ธนาคารสามารถช่วยให้คำปรึกษาให้แก่คุณ เช่น สินเชื่อเงินสดฉุกเฉินทำให้คุณไม่ต้องหวาดกลัวกับแก๊งค์ทวงหนี้นอกระบบ